สวัสดีค่ะ เราได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่จ.กาญจนบุรี
อยากแชร์รูปภาพและบรรยากาศที่ๆเราไปมาค่ะ^^
เราใช้กล้องfujifilm X-A2 เลนส์ ZEISS touit 1.8/32 ปรับด้วยVSCO
เซฟมาจากเฟซบุ๊คอีกที ถ้าดูในคอมภาพก็จะไม่ค่อยชัดค่ะ
ไปทั้งหมด3คืน4วัน เปลี่ยนที่นอน3ที่
เดินทางตั้งแต่วันที่ 21-24 ธค. 2015 ที่ผ่านมานี้เองงง แถ่นแทนแท๊นน~
เราเดินทางแบบไม่มีรถส่วนตัวนะคะ
ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยว ก็ลองศึกษาวิธีการไปจากของเราได้นะคะ
เริ่มแรกเราไปสถานีรถไฟธนบุรีค่ะ ที่เลือกเพราะว่ามัน..ฟรี!!!
ที่ต้องเตรียมไปคือบัตรประชาชนค่ะ เอาไปยื่นแล้วเจ้าหน้าที่จะให้ตั๋วรถไฟมาเลยค่ะ
ใครที่อยากถึงเร็วหน่อยก็ไปสถานีรถไฟหัวลำโพงได้นะคะ แต่เสียตังค์นิดหน่อย สายนี้รู้สึกว่าจะไปแค่เสาร์-อาทิตย์ค่ะ
เรานัดกับเพื่อนเช้ามากๆค่ะ เพราะได้ยินมาว่าคนจะเยอะ แต่ว่า..คนไม่เยอะอย่างที่คิดค่ะ
นัดกัน6โมง เราไปเช้าเกินค่ะ รถไฟออก 7.55(เวลาตามตั๋ว) แต่ออกจริงๆคือ 8.30(ออกเลท)
เวลาเหลือ เพื่อนก็เลยทานข้าวเช้าที่หน้าสถานีค่ะ
เริ่มสว่างแล้ว เพื่อนเรายังมากันไม่ครบเลย โทรไปก็ไม่รับ มันตื่นสายค่ะ555
แต่ก็มาทันแบบเฉียดฉิวเลย ประมาณว่า ขึ้นรถปั๊บรถออกปุ๊บ ตื่นเต้นมากๆ
หน้าตาตั๋วเป็นแบบนี้..ของเรา สถานีปลายทางเป็นสถานีน้ำตกค่ะ
ตอนขอคุณพ่อคุณแม่ไปรถไฟ ท่านเป็นห่วงมากๆเลย
เพราะว่ามีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับรถไฟเยอะ แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
ทั้งปลอดภัยและสะอาด แต่ก็ไม่ควรประมาทนะคะ
เราไปตอนช่วงเช้าเลยไม่มีอะไรค่ะ แต่ถ้าใครไปช่วงเย็นหรือกลางคืน ก็ควรระวังตัวให้มากๆด้วย
ด้านในรถไฟเป็นแบบนี้ค่ะ (ขอโทษด้วย ไม่มีรูปถ่ายด้านในอย่างเดียวค่ะ) -- พอจะดูออกกันเนอะ
เดินทางประมาณ5ชม. ถึงประมาณ 13.30
มีของกินขายบนรถด้วยค่ะ
ลองทานดู ไม่แพงและรสชาติก็ใช้ได้ค่ะ
นี่ก๋วยเตี๋ยว10บาท สมราคาจริงๆ คำเดียวหมด5555
พริกที่ใส่ไว้ให้อยู่แล้วค่อนข้างเผ็ดค่ะ เตือนเอาไว้ หากใครอยากลอง^[]^
นี่แพนเค้ก กับโดนัท กลิ่นมันหอมยั่วยวนมากก็เลยต้องจัดไปซักอัน
แพนเค้กอร่อยนะคะ ส่วนโดนัทน้ำตาลเยอะมาก หวานไปค่ะ
ต่อไปเป็นวิวจากรถไฟ
ถึงแล้วววววววว
นั่งสองแถวจากตรงสถานีไปน้ำตกไทรโยคเพื่อหารถไปที่พักคะ คนละ10บาท
แต่คนขับดันคิดผิดคิดให้เรา6คน 120บาท
เพื่อนเราที่เป็นคนจ่ายเงินก็ไม่รู้ว่าเขาคิด10บาท เลยจ่ายไป120เลยจ้าาT^T
พอถึงแล้วก็แวะไปเดินดูน้ำตกไทรโยคน้อยซะเลย เดินแปปเดียวค่ะ
มันไม่ใหญ่(น้อยตามชื่อเลย) แค่10นาทีก็เดินทั่วแล้ว
อากาศไม่ร้อนมาก มีแดดช่วงบ่ายๆ
มีรถไฟด้วยยย*0*
เราและเพื่อนตัดสินใจเหมารถสองแถวคันเดิมที่มาส่ง ให้ไปส่งที่ The For Rest Resort
ต่อราคาเหมาเหลือ600 (อาจจะต่อได้อีกนะคะ ถ้ามีความสามารถพอ)
เราต้องไปให้ถึงทัน15.00ค่ะ เพราะว่าแพของรีสอร์ทจะออก15.30 ไม่งั้นก็ต้องรออีกรอบเป็นชม.เลย
คนขับเลยซิ่งให้ ซิ่งแบบข้าวเหนียวไก่ที่เอามากินบนรถปลิว55555 ลมพัดผมเหนียวไปหมดเลย
นี่สระว่ายน้ำของรีสอร์ทค่ะ เดินเข้ามาจากทางเข้านิดหน่อย
แล้วเราก็ไปล่องแพค่ะ ไม่ได้เอากล้องไปถ่ายด้วย
ค่าบริการรวมอยู่ในค่าที่พักอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเพิ่มค่ะ คืนละ2400 นอนได้2คน
มันจะเป็นแพใหญ่ๆ พาเราไปถึงจุดๆนึงแล้วปล่อยให้พวกเราลงน้ำ ไหลกลับไปยังจุดที่ขึ้นแพค่ะ
ลอยรวมๆก็1ชม. น้ำเย็นมาก และไหลแรงระดับหนึ่ง
ไม่ต้องกลัวจมนะคะ เขามีเสื้อชูชีพให้
ล่องแพเสร็จก็ต่อด้วยสไลด์เดอร์
จากนั้นก็ไปเช่าเรือคายัค มัดจำไม้พายไม้ละ500ค่ะ
เราเรือล่มด้วย รองเท้าแตะไหลไปกับน้ำเลย ลืมถอดไว้บนบก ตอนนั้นตกใจมาก
ต้องจับไม้พายไว้(เดี๋ยวได้เสียตังค์) น้ำก็ไหลแรง ขึ้นยากมากๆ เพื่อนเราเกือบจะเข้าไปติดอยู่ใต้บ้านแล้ว
พนักงานของรีสอร์ทก็ไม่มีใครสนใจเลยค่ะ ไม่มีใครคิดจะช่วยพวกเราเลย
พนักงานชายที่ว่ายน้ำได้แข็งก็ไปล่องแพอีกรอบนึง จึงมีพนักงานไม่มาก
แขกที่มาพักก็เอาแต่มองค่ะ รู้สึกแย่มากๆ
พอขึ้นจากน้ำได้ทุกคน รีบไปคืนไม้พายเลยค่ะ ส่วนรองเท้าแตะเรา หายไปข้างนึงT^T ต้องหาซื้อใหม่
ตอนไปคืนไม้พาย พนักงานที่ล็อบบี้ก็ยังมาชี้หน้าหัวเราะว่าเรารองเท้าหายอีกนะคะ เราแค้นค่ะ==" ฮึ่ม..
ตกเย็นก็ทานข้าวของรีสอร์ทค่ะ (คิดรวมไปกับค่าที่พักแล้ว)
เตียงของที่นี่ฝุ่นค่อนข้างเยอะนะคะ
เราคันจมูกคันตาตลอดทั้งคืนเลย
ตื่นมาตาแดงเถือก ใครที่แพ้พวกฝุ่น แนะนำให้พกผ้าขนหนูไปด้วยนะคะ เอามาวางบนหมอนนอน
ตอนเช้าเราเช็คเอาท์แล้วเดินทางไปสังขละ
ด้วยความที่ไม่รู้ว่ามันมีรถไปส่งถึงสังขละเลย
เราเลยเรียกรถสองแถวคันเดิมมารับ จะไปที่น้ำตกไทรโยคที่เดิม เพื่อหารถไปอ.สังขละ
แต่คนขับเขาบอกมาค่ะว่า ไม่ต้องไปถึงตรงนั้น
เราก็เหมือนเรียกมาเสียเที่ยว เลยให้คนขับพาไปส่งที่ท่ารถตู้ที่อ.ทองผาภูมิ
คิดคนละ150 (100คือค่าที่ตอนแรกเราต้องจ่ายเพื่อไปไทรโยค อีก50คือค่าไปส่งที่ทองผาภูมิ)
ถึงท่ารถตู้ก็ซื้อตั๋วไป คนละ80 เวลาเหลือเราก็ไปหาซื้อรองเท้าแตะค่ะ ราคาถูกมาก 35บาท เบา+ใส่สบาย
ถึงสังขละแล้ว อากาศร้อนค่ะ
แล้วก็นั่งวินมอไซค์คนละ20บาท ไปส่งที่ Haiku guesthouse
ด้านหน้าเป็นแบบนี้ ไม่เหมือนกับที่พักเลย เพราะข้างหน้าเป็นร้านกาแฟเล็กๆ นั่งชิวๆค่ะ
เจ้าของเป็นนักเขียนด้วยนะคะXD ใจดีมากค่ะ
ต้องเดินเข้าไปข้างในถึงจะเป็นบ้านพัก
ออกสไตล์ญี่ปุ่นๆ
ห้องพักไม่ใหญ่ค่ะ นอนได้ 2คน พื้นที่ให้เดินน้อยมาก
เตียงมีฝุ่นนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่เท่าThe For Rest Resort
คืนละ700 ไม่มีแอร์ มีพัดลมแบบตั้งให้ (ไม่ได้ถ่ายภายในมาให้ดูค่ะT^T)
มีโต๊ะส่วนกลางให้นั่งเล่นด้วยนะคะ
ตอนกลางคืนก็มานั่งคุย นั่งกิน นั่งดื่มกัน
พักสักหน่อยก็เดินไปสะพานมอญค่ะ ไม่ใกล้ไม่ไกล
ผ่านสะพานมอญไปก็จะเป็นสะพานไม้อุตตมานุสรณ์
สุดสะพานก็เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอวินมอเตอร์ไซค์
วัดวังก์วิเวการาม กับ เจดีย์พุทธคยา จะอยู่กันคนละฝั่ง
จ้างวินมอไซค์ไปส่งทั้ง2ที่(ให้เขารอเราจนเสร็จที่นึงแล้วก็พาไปอีกที่นึงค่ะ) คนละ50บาท
วัดวังก์วิเวการามค่ะ
เจดีย์พุทธคยา (ยังซ่อมแซมไม่เสร็จ)
หากใครใส่ขาสั้นไป จะมีผ้าถุงให้เช่าค่ะ 10บาท
แต่เราโชคดี พี่วินเขาชี้บอกร้านที่ให้ยืมฟรีค่ะ เราก็ไปยืมมาใส่
ไปกาญจน์กันเต๊อะพี่น้องงง(รูปเยอะ)
สวัสดีค่ะ เราได้มีโอกาสไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่จ.กาญจนบุรี
อยากแชร์รูปภาพและบรรยากาศที่ๆเราไปมาค่ะ^^
เราใช้กล้องfujifilm X-A2 เลนส์ ZEISS touit 1.8/32 ปรับด้วยVSCO
เซฟมาจากเฟซบุ๊คอีกที ถ้าดูในคอมภาพก็จะไม่ค่อยชัดค่ะ
ไปทั้งหมด3คืน4วัน เปลี่ยนที่นอน3ที่
เดินทางตั้งแต่วันที่ 21-24 ธค. 2015 ที่ผ่านมานี้เองงง แถ่นแทนแท๊นน~
เราเดินทางแบบไม่มีรถส่วนตัวนะคะ
ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยว ก็ลองศึกษาวิธีการไปจากของเราได้นะคะ
เริ่มแรกเราไปสถานีรถไฟธนบุรีค่ะ ที่เลือกเพราะว่ามัน..ฟรี!!!
ที่ต้องเตรียมไปคือบัตรประชาชนค่ะ เอาไปยื่นแล้วเจ้าหน้าที่จะให้ตั๋วรถไฟมาเลยค่ะ
ใครที่อยากถึงเร็วหน่อยก็ไปสถานีรถไฟหัวลำโพงได้นะคะ แต่เสียตังค์นิดหน่อย สายนี้รู้สึกว่าจะไปแค่เสาร์-อาทิตย์ค่ะ
เรานัดกับเพื่อนเช้ามากๆค่ะ เพราะได้ยินมาว่าคนจะเยอะ แต่ว่า..คนไม่เยอะอย่างที่คิดค่ะ
นัดกัน6โมง เราไปเช้าเกินค่ะ รถไฟออก 7.55(เวลาตามตั๋ว) แต่ออกจริงๆคือ 8.30(ออกเลท)
เวลาเหลือ เพื่อนก็เลยทานข้าวเช้าที่หน้าสถานีค่ะ
เริ่มสว่างแล้ว เพื่อนเรายังมากันไม่ครบเลย โทรไปก็ไม่รับ มันตื่นสายค่ะ555
แต่ก็มาทันแบบเฉียดฉิวเลย ประมาณว่า ขึ้นรถปั๊บรถออกปุ๊บ ตื่นเต้นมากๆ
หน้าตาตั๋วเป็นแบบนี้..ของเรา สถานีปลายทางเป็นสถานีน้ำตกค่ะ
ตอนขอคุณพ่อคุณแม่ไปรถไฟ ท่านเป็นห่วงมากๆเลย
เพราะว่ามีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับรถไฟเยอะ แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
ทั้งปลอดภัยและสะอาด แต่ก็ไม่ควรประมาทนะคะ
เราไปตอนช่วงเช้าเลยไม่มีอะไรค่ะ แต่ถ้าใครไปช่วงเย็นหรือกลางคืน ก็ควรระวังตัวให้มากๆด้วย
ด้านในรถไฟเป็นแบบนี้ค่ะ (ขอโทษด้วย ไม่มีรูปถ่ายด้านในอย่างเดียวค่ะ) -- พอจะดูออกกันเนอะ
เดินทางประมาณ5ชม. ถึงประมาณ 13.30
มีของกินขายบนรถด้วยค่ะ
ลองทานดู ไม่แพงและรสชาติก็ใช้ได้ค่ะ
นี่ก๋วยเตี๋ยว10บาท สมราคาจริงๆ คำเดียวหมด5555
พริกที่ใส่ไว้ให้อยู่แล้วค่อนข้างเผ็ดค่ะ เตือนเอาไว้ หากใครอยากลอง^[]^
นี่แพนเค้ก กับโดนัท กลิ่นมันหอมยั่วยวนมากก็เลยต้องจัดไปซักอัน
แพนเค้กอร่อยนะคะ ส่วนโดนัทน้ำตาลเยอะมาก หวานไปค่ะ
ต่อไปเป็นวิวจากรถไฟ
ถึงแล้วววววววว
นั่งสองแถวจากตรงสถานีไปน้ำตกไทรโยคเพื่อหารถไปที่พักคะ คนละ10บาท
แต่คนขับดันคิดผิดคิดให้เรา6คน 120บาท
เพื่อนเราที่เป็นคนจ่ายเงินก็ไม่รู้ว่าเขาคิด10บาท เลยจ่ายไป120เลยจ้าาT^T
พอถึงแล้วก็แวะไปเดินดูน้ำตกไทรโยคน้อยซะเลย เดินแปปเดียวค่ะ
มันไม่ใหญ่(น้อยตามชื่อเลย) แค่10นาทีก็เดินทั่วแล้ว
อากาศไม่ร้อนมาก มีแดดช่วงบ่ายๆ
มีรถไฟด้วยยย*0*
เราและเพื่อนตัดสินใจเหมารถสองแถวคันเดิมที่มาส่ง ให้ไปส่งที่ The For Rest Resort
ต่อราคาเหมาเหลือ600 (อาจจะต่อได้อีกนะคะ ถ้ามีความสามารถพอ)
เราต้องไปให้ถึงทัน15.00ค่ะ เพราะว่าแพของรีสอร์ทจะออก15.30 ไม่งั้นก็ต้องรออีกรอบเป็นชม.เลย
คนขับเลยซิ่งให้ ซิ่งแบบข้าวเหนียวไก่ที่เอามากินบนรถปลิว55555 ลมพัดผมเหนียวไปหมดเลย
นี่สระว่ายน้ำของรีสอร์ทค่ะ เดินเข้ามาจากทางเข้านิดหน่อย
แล้วเราก็ไปล่องแพค่ะ ไม่ได้เอากล้องไปถ่ายด้วย
ค่าบริการรวมอยู่ในค่าที่พักอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเพิ่มค่ะ คืนละ2400 นอนได้2คน
มันจะเป็นแพใหญ่ๆ พาเราไปถึงจุดๆนึงแล้วปล่อยให้พวกเราลงน้ำ ไหลกลับไปยังจุดที่ขึ้นแพค่ะ
ลอยรวมๆก็1ชม. น้ำเย็นมาก และไหลแรงระดับหนึ่ง
ไม่ต้องกลัวจมนะคะ เขามีเสื้อชูชีพให้
ล่องแพเสร็จก็ต่อด้วยสไลด์เดอร์
จากนั้นก็ไปเช่าเรือคายัค มัดจำไม้พายไม้ละ500ค่ะ
เราเรือล่มด้วย รองเท้าแตะไหลไปกับน้ำเลย ลืมถอดไว้บนบก ตอนนั้นตกใจมาก
ต้องจับไม้พายไว้(เดี๋ยวได้เสียตังค์) น้ำก็ไหลแรง ขึ้นยากมากๆ เพื่อนเราเกือบจะเข้าไปติดอยู่ใต้บ้านแล้ว
พนักงานของรีสอร์ทก็ไม่มีใครสนใจเลยค่ะ ไม่มีใครคิดจะช่วยพวกเราเลย
พนักงานชายที่ว่ายน้ำได้แข็งก็ไปล่องแพอีกรอบนึง จึงมีพนักงานไม่มาก
แขกที่มาพักก็เอาแต่มองค่ะ รู้สึกแย่มากๆ
พอขึ้นจากน้ำได้ทุกคน รีบไปคืนไม้พายเลยค่ะ ส่วนรองเท้าแตะเรา หายไปข้างนึงT^T ต้องหาซื้อใหม่
ตอนไปคืนไม้พาย พนักงานที่ล็อบบี้ก็ยังมาชี้หน้าหัวเราะว่าเรารองเท้าหายอีกนะคะ เราแค้นค่ะ==" ฮึ่ม..
ตกเย็นก็ทานข้าวของรีสอร์ทค่ะ (คิดรวมไปกับค่าที่พักแล้ว)
เตียงของที่นี่ฝุ่นค่อนข้างเยอะนะคะ
เราคันจมูกคันตาตลอดทั้งคืนเลย
ตื่นมาตาแดงเถือก ใครที่แพ้พวกฝุ่น แนะนำให้พกผ้าขนหนูไปด้วยนะคะ เอามาวางบนหมอนนอน
ตอนเช้าเราเช็คเอาท์แล้วเดินทางไปสังขละ
ด้วยความที่ไม่รู้ว่ามันมีรถไปส่งถึงสังขละเลย
เราเลยเรียกรถสองแถวคันเดิมมารับ จะไปที่น้ำตกไทรโยคที่เดิม เพื่อหารถไปอ.สังขละ
แต่คนขับเขาบอกมาค่ะว่า ไม่ต้องไปถึงตรงนั้น
เราก็เหมือนเรียกมาเสียเที่ยว เลยให้คนขับพาไปส่งที่ท่ารถตู้ที่อ.ทองผาภูมิ
คิดคนละ150 (100คือค่าที่ตอนแรกเราต้องจ่ายเพื่อไปไทรโยค อีก50คือค่าไปส่งที่ทองผาภูมิ)
ถึงท่ารถตู้ก็ซื้อตั๋วไป คนละ80 เวลาเหลือเราก็ไปหาซื้อรองเท้าแตะค่ะ ราคาถูกมาก 35บาท เบา+ใส่สบาย
ถึงสังขละแล้ว อากาศร้อนค่ะ
แล้วก็นั่งวินมอไซค์คนละ20บาท ไปส่งที่ Haiku guesthouse
ด้านหน้าเป็นแบบนี้ ไม่เหมือนกับที่พักเลย เพราะข้างหน้าเป็นร้านกาแฟเล็กๆ นั่งชิวๆค่ะ
เจ้าของเป็นนักเขียนด้วยนะคะXD ใจดีมากค่ะ
ต้องเดินเข้าไปข้างในถึงจะเป็นบ้านพัก
ออกสไตล์ญี่ปุ่นๆ
ห้องพักไม่ใหญ่ค่ะ นอนได้ 2คน พื้นที่ให้เดินน้อยมาก
เตียงมีฝุ่นนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่เท่าThe For Rest Resort
คืนละ700 ไม่มีแอร์ มีพัดลมแบบตั้งให้ (ไม่ได้ถ่ายภายในมาให้ดูค่ะT^T)
มีโต๊ะส่วนกลางให้นั่งเล่นด้วยนะคะ
ตอนกลางคืนก็มานั่งคุย นั่งกิน นั่งดื่มกัน
พักสักหน่อยก็เดินไปสะพานมอญค่ะ ไม่ใกล้ไม่ไกล
ผ่านสะพานมอญไปก็จะเป็นสะพานไม้อุตตมานุสรณ์
สุดสะพานก็เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอวินมอเตอร์ไซค์
วัดวังก์วิเวการาม กับ เจดีย์พุทธคยา จะอยู่กันคนละฝั่ง
จ้างวินมอไซค์ไปส่งทั้ง2ที่(ให้เขารอเราจนเสร็จที่นึงแล้วก็พาไปอีกที่นึงค่ะ) คนละ50บาท
วัดวังก์วิเวการามค่ะ
เจดีย์พุทธคยา (ยังซ่อมแซมไม่เสร็จ)
หากใครใส่ขาสั้นไป จะมีผ้าถุงให้เช่าค่ะ 10บาท
แต่เราโชคดี พี่วินเขาชี้บอกร้านที่ให้ยืมฟรีค่ะ เราก็ไปยืมมาใส่